วันที่ : 2013-01-14 |
West Nile Virus (WN) เชื้อที่กำลังโด่งดังในอเมริกา !!
ขณะนี้เจ้าหน้าที่ในเมืองดัลลัส รัฐเทกซัส สหรัฐอเมริกา ต้องเร่งควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสเวสต์ไนล์ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 50 ปี ที่เมืองดัลลัสต้องใช้เครื่องบินปล่อยยาฆ่าแมลงเพื่อกำจัดยุง เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสเวสต์ ไนล์
West Nile Virus (WN) เป็นไวรัสที่ก่อปัญหาโรคติดเชื้ออุบัติใหม่ซ้ำมาเมื่อไม่กี่ปีนี้ ในประเทศแถบอบอุ่นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุโรปและอเมริกาเหนือ ทำให้เกิดภาวะติดเชื้อทั้งในคน ม้า นกและสัตว์อื่น ๆ โรคที่เกิดจาก WN นี้คือ ไข้สมองอักเสบที่มีความรุนแรงทำให้ถึงแก่กรรมได้ทั้งในคน ม้า และนกบ้านและนกป่าด้วย ประวัติของ West Nile Virus (WN) นี้ แยกเป็นครั้งแรกจาก ผู้ใหญ่สตรีเพศที่ป่วยมีอาการไข้ที่ตำบล เวท์ไพล์ ในประเทศยูกันดา เมื่อปี พ.ศ. 2480 ถิ่นที่พบโรคในเวลาต่อมาคือเมื่อ พ.ศ. 2493 คือประเทศอียิปต์ และพบว่าก่อโรคเยื่อหุ้มสมองและสมองอักเสบอย่างรุนแรงในผู้ป่วยสูงอายุในอิสราเอลเมื่อปี พ.ศ. 2500
โรคของม้าที่รายงานเป็นครั้งแรกเมื่อต้นปี พ.ศ. 2503 จากประเทศอียิปต์และฝรั่งเศส แล้วก็เงียบหายไปสำหรับข้อมูลทางระบาดวิทยาที่จัดโรคนี้เป็นโรคติดเชื้อที่ปรากฏขึ้นใหม่ เนื่องจากมีการรายงานผู้-ป่วยใหม่ในฤดูร้อนของ พ.ศ. 2542 ที่นิวยอร์ค สหรัฐอเมริกาในซีกโลกตะวันตกซึ่งไม่เคยมีรายงานมาก่อน โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอาการและอาการแสดงของไข้สมองอักเสบหรือเยื่อหุ้มสมองอักเสบในช่วง 8 สัปดาห์ มีรายงานผู้ป่วย 59 ราย ที่ต้องนอนโรงพยาบาล และ 7 ราย ได้ถึงแก่กรรมในที่สุด ในปี พ.ศ. 2543 ได้มีการระบาดในอิสราเอล ในเดือนสิงหาคม 2544 ได้มีรายงานการเกิดโรคนี้อีกในสหรัฐอเมริกา โดยพบผู้ป่วย 6 ราย ในเมืองนิวยอร์ค แอตแลนตา และรัฐฟลอริด้า จนกระทั่งได้มาระบาดอีกครั้งในปัจจุบันนี้คือปี 2555 ที่เขตดัลลัส เคาน์ตี้ และเมืองเฟรสโน รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา Family : Flaviviridae West Nile Virus เป็นไวรัสมีเปลือกหุ้มสัณฐานกรมขนาด 40-60 นาโนเมตร กรดนิวคลิอิกเป็นอาร์เอ็นเอ แถบเดียว ประมาณ 10,000-11,000 เมตร
และยังไม่มีรายงานการติดต่อจากคนสู่คน การรักษาไม่มียารักษาที่จำเพาะ ให้รักษาตามอาการและแบบประคับประคอง ส่วนการควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศโดยเฉพาะในขณะที่มีรายงานการติดเชื้อ ได้แก่ การห้ามนำเข้า นกจากพื้นที่ที่มีรายงานโรคนี้เหล่านี้ ข้อมูลจาก ศาสตราจารย์เกียรติคุณ น.พ. ประเสริฐ ทองเจริญ
อ้างอิง
|