Role
of Veterinarians on Diagnosis, Prevention and Control of Avian
Influenza
(บทบาทของสัตวแพทย์ในการวินิจฉัย ป้องกัน และควบคุมโรคไข้หวัดนก)
|
ผศ. น.สพ. ดร. อลงกร อมรศิลป์
ภาควิชาสัตวแพทยสาธารณสุข
คณะสัตวแพทยศาสตร์
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
โทร 02-218-9577
การบรรยายครั้งนี้ได้เน้นถึงบทบาทของสัตวแพทย์ในด้านการเฝ้าระวังและแก้ปัญหาการระบาดของโรคไข้หวัดนก
ด้านการเฝ้าระวังการเปลี่ยนแปลงและการกลายพันธุ์ของเชื้อ ด้านการกำหนดมาตรการต่างๆ
ของรัฐ และด้านการศึกษาวิจัยข้อมูลพื้นฐานที่เกี่ยวกับโรคไข้หวัดนก
ตัวอย่างของบทบาทในด้านการกำหนดมาตรการต่างๆ
ของรัฐ จะเกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของกรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ในเรื่องการกำหนดมาตรการการดำเนินงานแก้ปัญหาไข้หวัดนกของประเทศ เช่น
มาตรการการเฝ้าระวังและค้นหาโรคไข้หวัดนก มาตรการการควบคุมเคลื่อนย้ายสัตว์ปีกและผลิตภัณฑ์สัตว์ปีก
มาตรการการทำลายสัตว์และการจ่ายค่าชดเชย มาตรการการทำความสะอาดและทำลายเชื้อ
มาตรการการควบคุมโรงฆ่าสัตว์ปีกและโรงงานแปรรูป มาตรการการปรับปรุงและพัฒนาระบบการเลี้ยงสัตว์ปีก
ในด้านการเฝ้าระวังและแก้ไข้ปัญหาการระบาดของโรคไข้หวัดนก
ได้มีการดำเนินการสร้างเครือข่ายการเฝ้าระวังโรคและเครือข่ายห้องปฏิบัติการ
ซึ่งเป็นความร่วมมือกันระหว่างกรมปศุสัตว์ฯ และคณะสัตวแพทยศาสตร์ในมหาวิทยาลัยของรัฐ
เช่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และมหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยในการเฝ้าระวังโรคไข้หวัดนก
จะเน้นการเฝ้าระวังโรคทั้งแบบเชิงรุกและเชิงรับ ตัวอย่างของโครงการในการเฝ้าระวังโรคแบบเชิงรุก
เช่น โครงการรณรงค์ค้นหาโรคไข้หวัดนกในสัตว์ปีก (X-Ray) ซึ่งได้ดำเนินการปีละ
2 ครั้ง ตัวอย่างของการแก้ไขปัญหาการระบาดของโรคไข้หวัดนก เช่นการแก้ปัญหาการระบาดของโรคไข้หวัดนกในฟาร์มเสือ
จังหวัดชลบุรี เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2547 ซึ่งสามารถตรวจพิสูจน์โรคและแก้ปัญหาการระบาดของโรคไม่ให้แพร่ไปยังสัตว์ปีกและสัตว์ชนิดอื่นๆในฟาร์มได้
บทบาทด้านการเฝ้าระวังการเปลี่ยนแปลงและการกลายพันธุ์
รวมทั้งด้านการศึกษาวิจัย ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับโรคไข้หวัดนก ได้มีผลงานเผยแพร่ในวารสารระดับนานาชาติมากกว่า
10 เรื่อง โดยสรุปผลการเฝ้าระวังการเปลี่ยนแปลงและการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัสไข้หวัดนก
จากการติดตามเชื้อไวรัสมากกว่า 100 ตัวอย่าง ยังไม่พบการเปลี่ยนแปลงในจุดที่มีความสำคัญต่อความรุนแรงและการเกิดโรคของเชื้อไวรัส
เช่นผลการถอดรหัสพันธุกรรมของเชื้อไวรัสไข้หวัดนกที่แยกได้จากสัตว์ปีกในเดือนตุลาคม
ปี 2548 (ไก่ กาญจนบุรี) (ไก่ นนทบุรี) (นกกระทา นครปฐม) พบว่าเชื้อไวรัสยังจัดอยู่ในกลุ่มของจีโนไทป์
Z ซึ่งเป็นกลุ่มของเชื้อไวรัสในประเทศไทยและเวียดนาม และมีความเหมือนในระดับนิวคลีโอไทต์มากกว่า
90% ในทุกยีน
โดยสรุป แนวทางในการควบคุมและป้องกันโรคไข้หวัดนก
ควรคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ 3 ประการดังนี้คือ 1. เชื้อไวรัส ควรคำนึงถึงเรื่องการทำลายเชื้อไวรัสและการเฝ้าระวังการเปลี่ยนแปลงของเชื้อไวรัส
2. สัตว์ ควรคำนึงถึงเรื่องการเฝ้าระวังโรค การทำลายสัตว์ป่วย การเพิ่มภูมิคุ้ม
และการควบคุมการเคลื่อนย้ายสัตว์ 3. สิ่งแวดล้อม ควรคำนึงถึงเรื่องการปรับระบบการเลี้ยงสัตว์ปีก
เป็นต้น
<<back
|